โทมัส ยอร์ช น็อกซ์ (อังกฤษ: Thomas George Knox; พ.ศ. 2367-2430) เป็นกงสุลใหญ่ชาวอังกฤษประจำสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นบุตรของนายเจมส์ สเปนเซอร์ น็อกซ์ กับนางคลารา บาร์บารา แบรส์เฟิร์ด เดิมเป็นทหารอังกฤษยศร้อยเอกประจำประเทศอินเดีย กล่าวกันว่าพอเล่นพนันแข่งม้าจนหมดตัว จึงลาออกจากตำแหน่งตามร้อยเอกอิปเป มาทำงานที่สยามในรัชสมัยรัชกาลที่ 4 โดยร้อยเอกอิปเปได้เป็นครูทหารวังหลวง ส่วนนายน็อกซ์ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดฯให้เป็นครูวังหน้า เป็นผู้ฝึกทหารอย่างยุโรป และยังได้เข้ากองทัพกรมหลวงวงศาธิราชสนิทไปตีเมืองเชียงตุง
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ประทานผู้หญิงวังหน้า ชื่อ ปราง ให้เป็นภรรยา มีลูกด้วยกันสามคน ต่อมาเมื่อรัฐบาลอังกฤษตั้งกงสุลในกรุงเทพ และด้วยความรู้การเมืองและภาษาไทย จึงทำงานเป็นผู้ช่วยกงสุล แล้วได้เลื่อนตำแหน่งจนได้เป็นกงสุลเยเนอราล มีบรรดาศักดิ์เป็นเซอร์ อีกทั้งยังสนิทและคุ้นเคยกับเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ และได้เป็นกงสุลใหญ่อังกฤษกับอภิรัฐมนตรีในสมัย สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน
โทมัส ยอร์ช น็อกซ์ สมรสกับปราง หญิงเชื้อสายทวายที่ได้รับพระราชทานจากวังหน้า มีบุตรด้วยกัน 3 คน ได้แก่
ต่อมาบุตรสาว แฟนนี่ น็อกซ์ แต่งงานกับพระปรีชากลการ (สำอาง อมาตยกุล) ซึ่งเกิดเหตุการณ์ระหองระแหงระหว่างพระปรีชากลกับสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ จากการที่มาจากความประพฤติไม่ชอบของพระปรีชากลการ ทำให้นายน็อกซ์พยายามใช้อิทธิพลของตนในฐานะผู้แทนรัฐบาลอังกฤษสั่งเรือรบเข้ามาข่มขู่รัฐบาลสยามเพื่อช่วยลูกเขย แต่ผลคือพระปรีชากลการถูกลงโทษประหารชีวิต พร้อมถูกริบราชบาตร นายน็อกซ์ถูกทางการอังกฤษเรียกตัวกลับไป นางแฟนนี่ ลูกสาวต้องหนีออกนอกประเทศและไม่มีข่าวหลังจากนั้นอีกเลย
อนึ่ง ในช่วงแรกที่นายนอกซ์เป็นกงสุลนั้น มีชาวอังกฤษชื่อเฮนรี อาลาบาศเตอร์ ดำรงตำแหน่งเป็นรองกงสุล ซึ่งต่อมาคือต้นตระกูลของพลอากาศเอกสิทธิ เศวตศิลา องคมนตรี